นิยาม HIA“การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ” หมายถึง กระบวนการ วิธีการ และเครื่องมือที่หลากหลาย ที่ใช้เพื่อการคาดการณ์ถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบาย แผนงานหรือโครงการ ที่มีต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน และการกระจายของผลกระทบในกลุ่มประชากร และการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพจะกำหนดถึงกิจกรรมที่เหมาะสม ในการจัดการผลกระทบเหล่านั้น (องค์การอนามัยโลก/IAIA 2006)
หลักการการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ เป็นกระบวนการที่ให้ความสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนและให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยกำหนดสุขภาพอย่างรอบด้าน โดยมุ่งเน้นการสร้างเสริมสุขภาพในระดับต่างๆ พร้อมกับลดภัยคุกคามต่อสุขภาพ โดยใช้วิธีการและเครื่องมือหลายชนิดร่วมกัน รวมทั้งข้อมูล หลักฐานทางวิชาการอย่างมีจริยธรรม เพื่อให้เห็นถึงความเชื่อมโยงของปัจจัยและผลที่เกิดจากการดำเนินโครงการและเพื่อหามาตรการป้องกันและลดผลกระทบจากการดำเนินโครงการ ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนหรือก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชน หรือประชาชนให้น้อยที่สุด โดยควรใช้ก่อนจะมีการดำเนินโครงการ ซึ่งช่วยให้ผู้ประเมินผลกระทบต่อสุขภาพมีมุมมองที่รอบคอบและรอบด้านมากขึ้น เน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องผู้ประเมินต้องอธิบายให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของโครงการในแต่ละช่วงเวลา อันส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยกำหนดสุขภาพ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคมการให้บริการสาธารณะ และการสาธารณสุข รวมทั้งผู้ประเมินต้องวิเคราะห์ให้เห็นว่าปัจจัยกำหนดสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงของสิ่งคุกคามสุขภาพในกลุ่มประชาชนกลุ่มใดบ้าง โดยเฉพาะในประชาชนกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเป็นกลุ่มที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ควรอธิบายได้ว่าผลกระทบต่อสุขภาพที่เกิดขึ้นมีผลต่อบุคคล ชุมชน สังคมอย่างไรบ้าง และท้ายที่สุดเพื่อนำไปสู่ข้อเสนอแนะและมาตรการในการจัดการกับผลกระทบต่อสุขภาพได้อย่างเหมาะสม อันนำไปสู่การคุ้มครองสุขภาพของประชาชนในชุมชนต่อไป |
ความสำคัญและคุณค่าตามข้อตกลง Gothenburg ได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญและคุณค่าของ HIA ดังนี้1. ใช้หลักการประชาธิปไตย (Democracy) โดยเน้นถึงสิทธิของประชาชนในการมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจนโยบายโครงการหรือกิจกรรม ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม และกระบวนการมีส่วนร่วม ต้องอยู่บนพื้นฐานของความโปร่งใส2. คำนึงถึงความเท่าเทียมกัน (Equity) HIA ควรมุ่งเพื่อขจัดความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมในสังคมที่จะเป็นอุปสรรคต่อการมีสุขภาพและสังคมที่ดี ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว HIA จึงให้ความสำคัญกับ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส หรือกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบทางลบต่อสุขภาพ (Vulnerable Groups) เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า โครงการหรือกิจกรรมพัฒนานั้น จะเอื้อประโยชน์หรือเกิดผลกระทบทางบวกต่อประชาชนกลุ่มเหล่านี้ให้มากที่สุด และข้อเสนอแนะมาตรการลดผลกระทบทางลบที่อาจจะเกิดขึ้น สามารถป้องกันหรือลดผลกระทบทางลบให้เหลือน้อยที่สุด3. คำนึงถึงหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development) HIA เน้นเป้าหมายทางสุขภาพให้ทุกคนมีความพร้อมและสามารถเลือกแนวทางการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถของตนเองได้ตามศักยภาพที่มีอยู่ และสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข ทั้งในปัจจุบันและอนาคต4. การใช้ข้อมูลหลักฐานทางวิชาการอย่างมีจริยธรรม (Ethical use of evidence) HIA ประยุกต์ใช้ข้อมูลและหลักฐานที่ได้จากวิธีการเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ หลายวิธีการร่วมกัน โดยนักวิชาการ และบุคลากรที่เกี่ยวข้องหลากหลายสาขา5. ความครอบคลุมด้านสุขภาพแบบองค์รวม (Comprehensive approach to health) HIA คำนึงถึงสุขภาพทั้งกาย จิต สังคม และพิจารณาปัจจัยกำหนดสุขภาพอย่างรอบด้านดังนั้น HIA จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่นำมาใช้เพื่อระบุ คาดการณ์ และพิจารณาถึงผลกระทบต่อสุขภาพจากนโยบาย โครงการ หรือกิจกรรม ที่อาจจะเกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นแล้วกับประชากรทุกๆ กลุ่ม และนำเสนอข้อมูลแก่ผู้มีอำนาจตัดสินใจ |
ประโยชน์1) ทราบปัญหา ความต้องการประเด็นการพัฒนา และประเด็นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนความช่วยเหลือทางวิชาการ และแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ 2) ช่วยการผลักดันสู่กระบวนการตัดสินใจ 3) นำไปกำหนดจัดทำแผนงาน/โครงการ/การกำหนดนโยบายพัฒนาชุมชน 4) นำไปยกร่างหรือปรับปรุงข้อบัญญัติท้องถิ่น 5) นำไปกำหนดเงื่อนไขประกอบการอนุญาตการประกอบกิจการ เพื่อแก้ไขปัญหา หรือป้องกัน/ลดผลกระทบต่อสุขภาพ จากเหตุรำคาญของสถานประกอบการในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 6) ได้ข้อตกลงร่วมกันของชุมชน เกิดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง |
ประเภทของ HIAการแบ่งประเภทของ HIA ตามขนาดของการดำเนินงาน (WHO, 2005) แบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้1. การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพแบบเร่งด่วน (Rapid HIA) การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพแบบเร่งด่วนมักใช้สำหรับการพิจารณานโยบายหรือโครงการขนาดเล็กที่มีความซับซ้อนของผลกระทบทางสุขภาพไม่มากนัก หรือใช้ในกรณีที่มีความจำเป็นจะต้องได้รับทราบผลการประเมิน ผลกระทบอย่าง เร่งด่วน เพื่อให้สามารถนำเสนอผลการประเมินดังกล่าวได้ทันกับกระบวนการตัดสินใจที่กำลังจะเกิดขึ้น การประเมินแบบเร่งด่วนจึงใช้ระยะเวลาอันสั้นและเน้นการมีส่วนร่วมและประสบการณ์ที่ผ่านมาเป็นหลักข้อมูลที่ใช้ในการประเมินผลกระทบทางสุขภาพในรูปแบบนี้มักได้มาจาก |
ขั้นตอนการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ ประกอบด้วยขั้นตอนหลัก 5 ขั้นตอน ดังนี้1) การกลั่นกรอง (Screening) เป็นขั้นตอนแรกของการคัดเลือกโครงการ ว่าเข้าข่ายต้องทำ HIA หรือไม่ โดยพิจารณาจากความรุนแรงของผลกระทบ จำนวนประชากรที่ได้รับผลกระทบ ข้อมูลผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยกรทบทวนข้อมูลที่มีอยู่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง เมื่อพิจารณาแล้วว่าโครงการเข้าข่ายต้องทำ HIA จึงดำเนินกิจกรรมที่จำเป็นต่อการทำ HIA ต่อไป ได้แก่ การจัดตั้งทีมงาน HIA ซึ่งควรประกอบด้วยกลุ่มบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายสาขา ที่มีความรู้และเกี่ยวข้องกับโครงการหรือกิจกรรมที่จะทำ HIA2) การกำหนดขอบเขต (Scoping) เป็นการกำหนดขอบเขตทั้งในเชิงพื้นที่ กลุ่มประชากรเป้าหมาย ระยะเวลา และการบ่งชี้ผลกระทบต่อสุขภาพต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น3) การประเมินผลกระทบ (Appraisal) เป็นการประเมินผลกระทบที่ได้ระบุไว้ในขั้นตอนการกำหนดขอบเขต โดยวิเคราะห์ทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ และจัดลำดับความสำคัญของผลกระทบ เพื่อนำมากำหนดมาตรการป้องกันและลดผลกระทบต่อสุขภาพ และมาตรการติดตามตรวจสอบ4) การจัดทำรายงานและข้อเสนอแนะ (Reporting and Recommendations) เป็นการสรุปผลและจัดทำข้อเสนอแนะสำหรับการปรับปรุงรายละเอียดการดำเนินงานตามโครงการ เพื่อส่งเสริมสุขภาพ และลดปัจจัยเสี่ยงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ และนำเสนอต่อผู้มีอำนาจตัดสินใจเพื่อพิจารณาดำเนินงานต่อไป เช่น การออกข้อกำหนดท้องถิ่น การขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ เป็นต้น5) การติดตามตรวจสอบและประเมินผล (Monitoring and Evaluation) หลังจากที่มีการดำเนินโครงการไปแล้ว จะต้องมีการติดตามประเมินผลการดำเนินงาน รวมทั้งเฝ้าระวังผลกระทบต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตลอดจนการปฏิบัติให้เป็นไปตามคำแนะนำในการลดผลกระทบ |
|
ภาพ: ขั้นตอนการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพ |
แนวทางการประยุกต์ใช้การประยุกต์ใช้ HIA ให้พิจารณาจากความสำคัญหรือความเร่งด่วนของปัญหา ความเป็นไปได้ที่สำเร็จหรือนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง องค์ความรู้ที่มีอยู่หรือภาคีเครือข่ายที่สามารถให้การสนับสนุน เป็นต้น โดยแบ่งประเด็นที่สามารถทำ HIA ได้ 4 ลักษณะ ดังนี้1) เป็นปัญหาที่มีการร้องเรียน/เป็นเหตุรำคาญที่กระทบต่อประชาชนในวงกว้าง2) เป็นปัญหาจากการประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.25353) การออกข้อกำหนดท้องถิ่น ตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ.25354) การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นหรือการพัฒนานโยบายสาธารณะของท้องถิ่น |
|